เมนู

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรได้ทรงฟังดังนั้น ก็สิ้นสงสัย สาธุการว่า สาธุ ภนฺเต
พระเจ้าข้า ผู้เป็นเจ้าวิสัชนานี้ควรแล้ว สมฺปฏิจฺฉามิ โยมจะรับถ้อยคำไว้ในกาลบัดนี้
เอกัจจาเนกัจจานัง ธัมมาภิสมยปัญหา คำรบ 3 จบเพียงนี้

นิพพานัสส อทุกขมิสสภาวปัญหา ที่ 4


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้า
แต่พระนาคเสนผู้ปรีชา เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ อันว่าพระนิพพานนั้น เป็นเอกันตบรมสุขแท้ หรือ
หรือว่าจะเจือไปด้วยทุกข์บ้างพระผู้เป็นเจ้า
พระนาคเสนมีเถรวาจาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมาภาร อันว่า
นิพพานนั้นเป็นเอกกันตบรมสุข จะได้จานเจือด้วยความทุกข์หามิได้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่
พระนาคเสนผู้ปรีชา พระผู้เป็นเจ้าว่านั้นโยมไม่เชื่อ โยมเห็นว่าพระนิพพานเจือไปด้วยทุกข์เป็น
แท้ ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า ธรรมดาพระโยคาวจรเจ้าแสวงหาพระนิพพาน
นั้น ลำบากกายทรมานกายด้วยอิริยาบถทั้ง 4 คือจะเดินก็ภาวนา จะยืนก็ภาวนา จะนั่ง
ก็ภาวนา จะนอนก็ภาวนา จะบริโภคอาหารก็ต้องปัจจเวกขณ์ทุกคำอาหาร ต้องนั่งทรมาน จะ
นอน ก็ไม่เต็มตา ต้องรักษาจิตสำรวมอินทรีย์มิได้ส่งจิตไปตามอายตนะ ละญาติละมิตรละหมู่ละ
คณะ ถือสัลเลขสันโดษอยู่ไพรสณฑ์อันสงัดแต่ผู้เดียว ดูนี่ลำบากเป็นล้นเหลือ เหตุดังนี้ โยมจึง
่ว่าพระนิพพานนั้นเจือไปด้วยทุกข์ ที่เขาไม่แสวงพระนิพพานเขาก็เห็นสุขสบาย เหมือนหนึ่ง
หญิงชายทั้งหลายนี้ เขาไม่สำรวมอินทรีย์ เขายินดีในอายตนะคือเบญจกามคุณ 5 ประการ คือ
มาถือสุภนิมิตในรูป ยินดีในเสียงในกลิ่นในรสในสัมผัสถูกต้อง ที่ว่ายินดีในเสียงนั้นเป็นต้น
หญิงรูปชายอันฟ้องรำ ก็สำคัญเป็นสุภนิมิตว่างามนั้นประการ 1 ที่ว่ายินดีในเสียงนั้น คือยินดี
ในเสียงดุริยางค์ดนตรี และเสียงขับร้องอันจะให้เกิดราคะนั้นประการ 1 ที่ว่ายินดีในกลิ่นนั้น คือ
กลิ่นเกสรดอกไม้ทั้งลูกไม้ใบไม้แก่นไม้เปลือกไม้ยางไม้อันหอม ให้เกิดราคะบำรุงราคะนั้นประการ
1 ที่ว่ายินดีในรสนั้น พหุวิวิธสุภรสาย นิมิตฺเต คือยินดีในขานทียะโภชนียะอันมีรสดีมีอย่าง
ต่าง ๆ ประการ 1 ที่ว่ายินดีในสัมผัสถูกต้องนั้น คือยินดีที่จะให้กายถูกต้องซึ่งสิ่งอันนุ่มอันอ่อน
คือฟูกหมอนอันอ่อน เป็นที่จะบริโภคนั้นประการ 1 เรียกว่า เบญจกามคุณ 5 มี รูปายตนะ